เวลาที่ตลาดดี (Bull Market) ผมมักจะนึกถึงหลักการของ Jesse Livermore โดยเฉพาะประโยคที่ว่า
“Money is made by sitting, not trading.”
“It takes time to make money.”
“Men who can both be right and sit tight are uncommon.”
และ “Buy right, sit tight.”
คำสอนนี้อาจจะดูเหมือนเรียบง่าย แต่ถ้าหากวิเคราะห์ให้ดีแล้ว มันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งและยากพอสมควรที่จะปฏิบัติตามให้สำเร็จ
เริ่มจากคำว่า Buy right ก่อน แปลตรงๆคือ ‘การซื้อให้ถูกต้อง’ ซื้อได้ถูกต้องในที่นี้ก็คือ
– ซื้อหุ้นถูกตัว – ต้องเลือกหุ้นที่ดี พื้นฐานและกราฟแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นๆในตลาด
– ซื้อหุ้นถูกจังหวะ หุ้นอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ซื้อแล้วพร้อมวิ่งเลยไม่ต้องเสียเวลารอนานนัก
– ซื้อในช่วงเวลาที่ถูกต้อง ดูลมฟ้าอากาศก่อนว่าช่วงนั้นตลาดเป็นใจหรือไม่
กว่าที่เราจะซื้อได้ถูกต้อง เราต้องมีทั้งหลักการความรู้และผ่านประสบการณ์มาพอสมควร เพื่อที่จะคัดเลือกหุ้นออกมาให้ดีในแต่ละช่วงเวลา
แต่หลังจากที่เราผ่านด่านเรื่องการ Buy Right ได้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งคำที่ยากกว่าการซื้อคือคำว่า ‘Sit Tight’ หรือ ‘การนั่งนิ่งเอาไว้!’
ในส่วนนี้จะเป็นเรื่องของการมีวินัยในการทำตามแผน, การควบคุมอารมณ์ ความอดทน และจิตวิทยาในการเทรด
ทำให้มันเป็นเรื่องที่ทำยากกว่าการเลือกและซื้อหุ้นพอสมควรเลยทีเดียว
บางคนอาจจะคิดว่า ตลาดดีเราต้องขยันเทรดให้มากขึ้นสิ ทำกำไรสั้นๆบ่อยๆสลับหุ้นไปมา
แต่ในเวลาที่ภาวะตลาดดีและแข็งแกร่งจริง การโดดเข้าออกหุ้นตัวนั้นตัวนี้สลับไปมา ผลตอบแทนโดยรวมอาจจะสู้การถือหุ้นดีๆไปตามแนวโน้มใหญ่ของมันไม่ได้
และมีหลายครั้งที่ทำให้เรารีบขายหมูหุ้นที่ดีไปซื้อหุ้นตัวที่แย่กว่ามาแทน หรือไปเทรดนอกแผนเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทำให้เกิดผลกำไรขาดทุนสลับไปมาจนสุดท้ายไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
จากบทเรียนของผมเองก็พบว่า หุ้นตัวที่เราเลือกมาอย่างดีแล้วตั้งแต่แรก หากเราอดทนถือมันได้จนสุดทาง(จบรอบใหญ่)ได้จริง มันมักจะเป็นหุ้นตัวที่ทำกำไรให้เรามากที่สุด
..กำไรก้อนโตจากหุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้นรอบใหญ่ จึงเกิดมาจากการนั่งนิ่งๆ ไม่ใช่การเทรดไปมา!
ดังนั้น เวลาที่ภาพใหญ่ของตลาดและหุ้นในพอร์ตเราดูเป็น Uptrend อย่างชัดเจนแล้วละก็ ต้องพยายาม Buy right แล้ว Sit Tight กันไว้ให้ดีครับ
….
Blog 79 : ‘Buy Right & Sit Tight’ หลักการสำคัญในตลาด Bull Market
26 กันยายน 2017
