จากการที่ผมเริ่มเล่นหุ้นตั้งแต่เริ่มเรียนปี 1 จนถึงตอนนี้ (ปี 2012) ก็เป็นเวลา 4 ปีแล้ว ผมได้เห็นข้อดีและประโยชน์ที่ได้จากการเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย หลายอย่างเลยครับ
ขออธิบายเป็นข้อๆตามนี้ครับ
1. มีเวลาศึกษา และทำการบ้าน(หุ้น)
– คำว่า ‘ไม่มีเวลา’ เป็นคำตอบที่คนวัยทำงานส่วนใหญ่มักจะตอบกันเมื่อถูกถามว่า ‘ทำไมไม่ลองศึกษาเรื่องการลงทุน’
โดยเฉพาะเมื่อคุณทำงานนานขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีครอบครัวต้องดูแล ตำแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบก็จะมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ก็ยิ่งทำให้คุณไม่มีเวลามาศึกษานั่นเอง
แต่ในช่วงที่ยังเรียนอยู่นั้น ส่วนใหญ่แล้วเราจะมีเวลาว่างค่อนข้างมาก (ยกเว้นช่วงอ่านหนังสือสอบ) ซึ่งวัยรุ่นหลายคนก็มักจะหาอะไรทำสนุกๆไปตามวัย แต่สำหรับคนที่ต้องการศึกษาการลงทุน ผมคิดว่าช่วงวัยรุ่นเป็นเวลาที่เหมาะสมมาก ที่จะแบ่งเวลามาศึกษาเรื่องนี้
นอกจากนี้ ในการลงทุนนั้น คุณต้อง “ทำการบ้าน” เป็นประจำ นั่นคือ การหาข้อมูล คิดวิเคราะห์การลงทุน ตรวจสอบสุขภาพพอร์ตลงทุนของคุณ ซึ่งถ้าคุณไม่มีเวลาทำเลย มันก็คงยากที่จะทำการบ้านเสร็จ
ในช่วงที่เพิ่งเริ่มลงทุน การทำการบ้านหุ้นมักจะใช้เวลานาน เพราะคุณยังไม่คุ้นหรือยังไม่เชี่ยวชาญพอ
ซึ่งถ้าคุณเพิ่งมาเริ่มศึกษาการลงทุนในขณะที่กำลังทำงานอยู่ด้วย คุณจะพบว่าการทำการบ้านหุ้นนั้น ก็ต้องใช้เวลาและความคิดมากพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะทำให้คุณเหนื่อยขึ้นเยอะจากที่เป็นอยู่
แต่เมื่อคุณลงทุนไปได้ซักระยะหนึ่ง คุณก็จะเริ่มเชี่ยวชาญ และคุ้นเคย ทำให้สามารถทำการบ้านเสร็จได้เร็วขึ้นครับ ดังนั้น ถ้าเราศึกษาการลงทุนตั้งแต่เด็กๆ เราก็จะทำการบ้านหุ้นได้รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยลงนั่นเองครับ
“คุณจะไม่รวยจากที่ทำงาน แต่คุณจะรวยจากการทำการบ้าน”
“You do not get rich at work. You get rich by doing your homework.”
– Robert Kiyosaki –
เมื่อผมมองย้อนกลับไป ก็รู้สึกว่า การที่ได้มีเวลามานั่งอ่านนั่งศึกษาเรื่องการลงทุนในตอนนั้น เป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์แก่ผมมากในระยะยาวจริงๆ
2. รับความเสี่ยงได้มากขึ้น
– การเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย คุณจะสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่อายุเยอะแล้ว การที่เงินลงทุนเริ่มต้นคุณไม่สูงมากนัก ทำให้คุณสามารถผิดพลาดได้บ่อยกว่าคนที่อายุเยอะ เพราะคุณยังมีเวลาเพื่อเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ และก็ยังสามารถหาเงินจากการทำงานมาเพิ่มในพอร์ตลงทุนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ การที่เราสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น ก็ทำให้เรามีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้นนั่นเอง
3. มีความยืดหยุ่น
– ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก
การเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อยๆ ความคิดของคุณจะเปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่าผู้ใหญ่
คุณสามารถพลิกแพลง ผสมผสาน หรือแม้แต่กระทั่งเปลี่ยนแนวทางการลงทุนของคุณได้เสมอ หากคุณพบว่าแนวทางดังกล่าวนั้นเหมาะสมกับตัวคุณมากกว่า และนำสิ่งต่างๆมาพัฒนาเป็นหลักการลงทุนของตัวเองในระยะยาว
4. ระยะเวลาลงทุน
– ปัจจัยที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดในการลงทุน ไม่ใช่ ผลตอบแทนสูงๆ หรือ เงินลงทุนเริ่มต้นจำนวนมาก หากแต่เป็น ‘ระยะเวลาที่ยาวนาน’
หากคุณเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย แม้ว่าเงินลงทุนเริ่มต้นจะไม่สูงมากก็ตาม แต่เมื่อคุณทำผลตอบแทนได้ดีสม่ำเสมอ ในระยะยาว เงินก้อนเล็กๆของคุณก็สามารถทบต้นทวีคูณได้มากจนคุณอาจจะคาดไม่ถึง ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากพลังของดอกเบี้ยทบต้นนั่นเอง
ลองอ่านบทความเหล่านี้ประกอบดูครับ
– Blog 37 : ‘Live longer & Perform better’ – ต้องรอด!
– ลงทุนปีละ ‘หนึ่งหมื่นสี่พันบาท’ ก็เป็น ‘เศรษฐีร้อยล้าน’ ได้
5. ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์
– ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมากในเรื่องของการลงทุน เพราะการที่คุณจะสามารถเอาตัวรอดในตลาดการเงินการลงทุนได้นั้น จำเป็นต้องมีความสามารถและประสบการณ์ที่ดีและมากพอ
หากเริ่มต้นลงทุนเร็ว คุณก็จะได้สิ่งเหล่านี้ติดตัวตั้งแต่อายุน้อย และเมื่อลงทุนไปนานๆ ปัจจัยเหล่านี้ก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากตามไปด้วย
…
จริงๆแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างที่ผมได้จากการเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย เช่น การได้ความรู้รอบตัวใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากมาย, การได้รู้จักพบปะพี่น้อง และเพื่อนๆจากการลงทุนหลากหลายวัย หลากหลายอาชีพ เป็นต้น
ดังนั้น หากคุณยังมีคำถามในหัวว่า เราควรเริ่มต้นศึกษาเรื่องการลงทุนเมื่อไหร่ดี? คุณก็คงจะได้คำตอบจากบทความนี้แล้วนะครับว่า “อย่ามัวรอช้า แต่จงเริ่มตั้งแต่ตอนนี้”…
.
“การเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุขึ้นต้นเลข 2 ย่อมสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าผู้ที่อยู่ในวัยเดียวกันแต่ชักช้ากับการคิดเรื่องลงทุน ความได้เปรียบที่ว่าครอบคลุมถึง ระยะเวลาในการลงทุน, ความสามารถในการลงทุน, และความกล้าที่จะลองหรือทดสอบการยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น”
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ –
‘Blog 25 : ข้อดีของการเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย (Investing Young)’
www.sarut-homesite.net
6 สิงหาคม 2012
“คุณจะไม่รวยจากที่ทำงาน แต่รวยจากการทำการบ้าน” ผมเห็นด้วยเลย เหมือนการลับขวานให้คมอยู่เสมอ