Blog 106 : ‘ความสม่ำเสมอเกิดจากภายใน’

struggle ในการเทรด ส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่เทรดเดอร์ไม่รักษาสมดุลทางอารมณ์

เช่น ตอนช่วงที่ดีก็ฮึกเหิมมากขึ้นเรื่อยๆ ซื้อหุ้นอัดหุ้น จนถึงจุดที่ไม่ค่อยมองความเสี่ยง , ไม่เผื่อว่าอาจเจอช่วงย่อแรง

เริ่มไม่กลัว ในจังหวะที่ควรกลัว

พอเจอตลาดพักแรงย่อลงมาระยะหนึ่ง ถึงกลับมากลัว-หดหู่มากเกินไป

เริ่มใจเสีย ไม่กล้าซื้อหุ้นในจังหวะที่ควรลองซื้อ

รวมถึงไม่ยอมทำการบ้านหาโอกาสและลองเทรดไปตามระบบ พอรู้ตัวอีกทีหุ้นก็เริ่มทยอยกลับตัววิ่งขึ้นไปหมดแล้ว

ต้องอย่าลืมว่า ปกติเราจะคัดกรองหุ้นที่น่าสนใจได้ง่ายที่สุดก็ตอนที่ตลาดยังดูไม่ดีหรือมีแต่ข่าวร้าย

แต่หุ้นกลุ่มนั้นมีอาการดีกว่าตัวอื่นอย่างชัดเจน (simple relative strength)

ถ้าเราชอบรอให้อะไรดูดีจนชัดเจน ก็อาจจะซื้อหุ้นช้าเกิน หรือซื้อได้ไม่นานก็มักจะเจอช่วงย่อแรงอยู่บ่อยครั้ง

– ปัญหาจากการใส่อารมณ์กับแต่ละ position มากเกินไป

ตอนกำไรก็ดีใจมาก – อยากบอกให้โลกรู้ว่าเราเก่ง

ตอนขาดทุนก็หงุดหงิด เริ่มใส่อารมณ์กับหุ้น-ตลาด , กับคนรอบตัว

หรือดูเป็นคนที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆตามผลกำไรขาดทุนในแต่ละวัน

หากไม่ระวัง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดแรงเหวี่ยงทางอารมณ์ทุกครั้งที่เราเทรด

และอาจทำให้กดดันจนเริ่มเครียดสะสม ถ้าเรายังไม่รู้ตัว ไม่เริ่มปรับสมดุลทางอารมณ์

อันที่จริงแล้ว ในแต่ละช่วงเราก็ควรมองหาโอกาส ประเมิน risk/reward ไปเรื่อยๆ

>> ประเมินสถานการณ์ ดูอาการตลาด – หุ้นในลิสเป็นหลัก

>> ถ้าเห็นโอกาสก็เข้าเทรดตามสมมติฐาน

ถ้าตลาด-หุ้นยังดูแย่ ก็ทำการบ้านแล้วรอ

ถ้าหุ้นเริ่มดูดีก็ทยอยเทรดทดสอบหุ้นไปตามปกติของเรา

ไม่ได้ฮึกเหิมเกินไป แต่ก็ไม่ได้กลัวตลาดจนเกินไป

สิ่งสำคัญคือการยอมรับทุกผลลัพธ์โดยไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง

กำไรก็อย่าดีใจเกินเหตุ ขาดทุนก็อย่าไปอะไรกับมันมากนัก

สรุปบทเรียนแล้วปล่อยวางจากผลการเทรดครั้งก่อน , ทำซ้ำต่อไปเรื่อยๆ

ไม่ใส่อารมณ์กับการเทรดแค่ 1 ครั้ง จากอีกหลายพันหลายหมื่นเทรดในระยะยาวของเรา

การฝึกฝนด้านจิตใจ รักษาอารมณ์ให้สมดุลไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร จะช่วยให้เราเกิดความสม่ำเสมอขึ้นมาเอง

(emotional balance = consistency)

อย่ามองหาความสม่ำเสมอ ความแน่นอนตายตัวจากตลาด

ความสม่ำเสมอมันต้องเกิดจากอารมณ์และจิตใจของเราเองเท่านั้น

####

Update 2023

ตลาดหุ้นจะมีช่วงที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเอง เทพสุดๆ และ โง่สุดๆ สลับกันไปมา

ถ้าคนที่ปล่อยให้อารมณ์สุดทางเข้าครอบงำบ่อยๆ ก็มักจะมีปัญหาอารมณ์แปรปรวน (mood swing)

โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดเหวี่ยงแรงหรือเริ่มปรับฐานเป็นขาลง การรักษาสภาพจิตใจจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น

นอกจากเรื่องอารมณ์ ก็ยังมีเรื่อง ego ที่เราต้องระวังตัวเองให้ดี เพราะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน

หลายคนพอผ่านช่วงที่ผลตอบแทนดีมากๆ ก็ค่อยๆกลายเป็นคน ego สูงตาม

เริ่มคิดว่าตัวเองเทพที่สุดในโลก เราคิดถูกมองถูกทุกเรื่อง-คนอื่นผิดหมด

หรือถ้าเจอช่วงแย่ๆของตัวเอง ก็กลายเป็นเครียดสะสมเกินไป อาจจะโมโหตลาดแล้วพาลไปโทษคนอื่นแทน

บางคนพอเจอ DD เยอะ ก็กลัวไปเองว่าจะไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ ทำให้มีปัญหาสุขภาพกาย-ใจตามมาได้ (depress)

ดังนั้น การเทรดในระยะยาวจึงเป็นการรักษาสมดุลให้ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ

– ช่วงนี้กำไรมากเทพสุดๆ แล้วไงต่อ? ก็แค่เทรดให้ดีต่อไปเรื่อยๆ

อย่าให้ความสำเร็จในอดีตทำให้เราเกิด ego มากไป จนย้อนกลับมาทำลายตัวเราได้

– ช่วงนี้กำไรน้อย ขาดทุน-แพ้ตลาด แล้วไงต่อ?

เราก็ทบทวนบทเรียน ปรับปรุง แล้วก็เทรดต่อไปเรื่อยๆเหมือนกันอยู่ดี

อย่าเอาความล้มเหลวผิดพลาดมากดทับตัวเองมากเกินไป จนลุกขึ้นมาสู้ใหม่ไม่ได้

– คอยรักษา balance ตบซ้ายตบขวา ดึงตัวเองกลับมาอยู่เรื่อยๆ

เมื่อเราเริ่มเข้าใจธรรมชาติความเป็น cycle ของตลาด ที่จะส่งผลกับอารมณ์-จิตใจของคนเล่นหุ้น และปรับตัวตามที่มันเป็นได้แล้ว

สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้อารมณ์ของเรามั่นคงขึ้น ไม่ถูกดึงไปมา-ขึ้นๆลงๆตามภาวะตลาดมากเกินไปครับ

.

Blog 106 : ‘ความสม่ำเสมอเกิดจากภายใน’

22 ธันวาคม 2021 , Updated 2023

Author: admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.