Blog 90 : ‘Market Rally ที่ดีควรเป็นแบบไหน?’

ในตลาดหมีขาลงหรือหลังปรับฐานมาพอสมควร สิ่งที่มักจะเกิดเป็นประจำคือ ‘ช่วงเด้ง’ ที่ตลาดกับหุ้นรายตัวจะดีดกลับแรงๆ

การดีดกลับอาจเกิดจากมีข่าวดี-ความหวังใหม่ ผสมกับการ cover short หลังลงมาเยอะ

ช่วงเด้งสามารถเกิดแบบสั้นๆไม่กี่สัปดาห์ ไปจนถึงรอบเด้งใหญ่แบบนาน 1-3 เดือน

และในตลาดปัจจุบันที่มีเครื่องมือทางการเงินอิงกับดัชนีตลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆ (futures , option , dw ฯลฯ) ก็มีผลให้ตลาดเหวี่ยงแรงและเปลี่ยนภาพได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย

แนวทางที่ช่วยสังเกตช่วง market rally (นอกจากการดูกราฟตลาดตามปกติ) ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนน้อยมากก็คือ

“เวลาที่ตลาดเริ่มจะดีจริง สิ่งที่เราควรเห็นคือการวิ่งขึ้นของกลุ่มหุ้นนำตลาด และกลุ่มหุ้น growth คุณภาพดี”

หรือพูดง่ายๆว่า ‘market rally ที่ดีนั้น อาการของหุ้นนำตลาด และหุ้นที่คัดมาแล้วในลิสของเราจะสำคัญที่สุด’

เพราะถ้าเราคัดหุ้นมาอย่างดีแล้ว เวลาที่ตลาดเริ่มกลับตัวหรือพุ่งขึ้นไป

สัญญาณสำคัญที่ควรเห็นคือ กลุ่มหุ้น growth / หุ้นในลิส ทยอยวิ่งขึ้นหรือเบรกเอาท์จาก base ที่ดีกันได้เรื่อยๆ

*ลิสหุ้นควรอัพเดตและคัดกรองอยู่เรื่อยๆ เพราะช่วงเด้ง หลายตัวที่ดูดีดแรงอาจจะแค่เพราะลงมาเยอะเฉยๆ

*รวมถึงการที่ตลาดมักจะเปลี่ยนกลุ่มเล่นเมื่อเกิดขาขึ้นรอบใหม่ เหลือตัวเดิมๆแค่ไม่กี่ตัว

ถ้าเราเห็นทั้งสองอย่างนี้สอดคล้องกัน ก็มีความเป็นไปได้ว่าตลาดอาจจะ bottom แล้ว ในภาพเล็ก

ส่วนภาพใหญ่-ระยะยาว ก็ยังต้องตามดูกันต่อไปเรื่อยๆวันต่อวัน / สัปดาห์ต่อสัปดาห์

แต่ถ้าช่วงที่เห็นตลาด rally หรือเด้งแรง แต่หุ้นในลิสของเรา (ที่อัพเดตแล้ว) กลับนิ่งๆเนือยๆ ดูเล่นแปลกๆ ไม่ค่อยไปไหนหรือวิ่งลงสวนทางอีก

ก็มีโอกาสสูงว่าการ rally รอบนั้นอาจจะล้มเหลว หรือไปได้ไม่ไกลนัก

หรือมองได้ว่าเป็นเพียงการเด้งเพื่อหวังผลใน product อื่น ที่ไม่ใช่หุ้นรายตัว

ดังนั้น ‘อาการของหุ้นรายตัว’ จึงเป็นปัจจัยเสริมสำคัญ ที่ช่วยบอกรายละเอียดหรือ context ของภาวะตลาดได้

และดีกว่าการดูแค่ว่า index ขึ้นหรือลงเพียงอย่างเดียวครับ

ส่วนด้านล่างนี้คือ บทเรียนของ Dan Zanger จากหนังสือ Momentum Master ครับ

“เมื่อปี 2006 พอร์ตของผมถูกกัดกินอย่างรุนแรงจากภาวะตลาดผันผวนสูง (whipsaw) ถึงแม้ว่าตลาดจะเด้งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก็ตาม

แต่การที่ตลาดทำ new high ก็ไม่ใช่สิ่งที่การันตีว่ามันต้องให้ผลดีเสมอไป

สำหรับผมภาวะตลาดที่มีหุ้นแค่ไม่กี่ตัววิ่งขึ้นได้ดี ถือว่ายังไม่แข็งแรงพอที่จะทำให้เราเทรดอย่างดุดันได้

สิ่งสำคัญอย่างนึงที่จะช่วยให้เราเอาตัวรอดในเกมนี้ได้ในระยะยาวก็คือ เราต้องชะลอการเทรดของตัวเองได้ หากเห็นว่าภาวะตลาดน่าจะยังไม่ดีจริง

ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีหุ้นบางตัวที่กระตุกความสนใจของคุณด้วยการทำจุดสูงสุดใหม่ก็ตาม

ภาวะตลาดที่ดีจริงๆ คือการที่ index โดยรวมต้องแสดงถึงความแข็งแกร่ง และมีหุ้นหลายตัวสามารถวิ่งขึ้นทำ new high จากฐานราคาที่ดีให้เราเห็น

รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการของหลายๆบริษัท มีการเติบโตอย่างน่าประทับใจ

ปัจจัยเหล่านี้คือตัวชี้วัดที่สำคัญในการตรวจสอบภาพรวมและสุขภาพของตลาด ซึ่งจะส่งผลมายังการปรับพอร์ตของผมด้วย”

####

Update 2023 ;

การประเมิน market rally เราไม่ควรดูแค่ว่าตลาดดีดแรงหรือเกิด FTD เพียงอย่างเดียว

แต่เราควรมองลงไปในรายละเอียด (context) ของ rally แต่ละครั้งว่ามันเป็นยังไง

เหมือนแนวคิดของ Wyckoff ที่บอกว่าสิ่งสำคัญอย่างนึงเวลาดูกราฟคือ การ interpret พฤติกรรมของตลาด-หุ้นรายตัว

และมองไปที่เบื้องหลังหรือแรงจูงใจในการทำราคาแต่ละครั้ง (motive behind action) เช่น เล่นตามพื้นฐาน growth , ดีดตามข่าว , หุ้นปั่น money game ฯลฯ

การดู context ด้วย จะช่วยให้เราประเมินสถานการณ์และตัดสินใจได้ดีขึ้นว่า จะเลือกเทรด/ไม่เทรด , หรือเทรดมากน้อยแค่ไหน

และควรระวังตรงจุดไหนบ้าง เพราะอะไร (judgment)

ด้านล่างนี้เป็น quote เรื่องการ interpret กราฟครับ

“Many people mistakenly attempt to use charts mechanically—without judgment.

They lead only to errors, losses, and discouragement.

Therefore, you must remember this :

When you study charts, you should look for the motive behind the action which the chart portrays.

Aim to interpret the behavior of the market and of stocks, not the fanciful patterns which the charts may accidentally form.”

(จากหนังสือ ‘The Richard Wyckoff Method of Trading and Investing in Stocks’)

Blog 90 : ‘Market Rally ที่ดีควรเป็นแบบไหน?’

26 มีนาคม 2019 , Updated 2023

Author: admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.